Tag Archives: Testosterone

อาการ Testosterone ต่ำและวิธีแก้

Testosterone ต่ำ (Hypogonadism) เป็นภาวะที่ร่างกายผลิตฮอร์โมน Testosterone ในระดับต่ำกว่าปกติ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในวัยรุ่นและผู้ใหญ่ โดยอาการจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับอายุและระดับฮอร์โมนที่ลดลง

อาการทั่วไปของ Testosterone ต่ำ

  • อารมณ์แปรปรวนและภาวะซึมเศร้า รู้สึกหดหู่เคลียด หรือไม่มีแรงจูงใจ
  • พลังงานลดลงและอ่อนเพลีย รู้สึกเหนื่อยง่าย ไม่มีแรงแม้จะพักผ่อนเพียวพอก็ตาม
  • สมรรถภาพทางเพศลดลง ความต้องการทางเพศลดลง และอาจมีปัญหาเรื่องการแข็งตัวของอวัยวะเพศ
  • มวลกล้ามเนื้อลดลง ร่างกายสร้างกล้ามเนื้อได้ยากขึ้นหรือเริ่มสูญเสียกล้ามเนื้อ พบได้ทั่วไปในวัยสูงอายุ
  • การสะสมไขมันเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะบริเวณหน้าท้อง และอาจเกิดภาวะหัวนมสาว Gynecomastia
  • ความจำและสมาธิแย่ลง อาจจะมีการหลงลืมหรือการโฟกัสกับงานได้ยากขึ้น

สาเหตุที่ทำให้ Testosterone ต่ำ

  • อายุเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะหลังอายุ 30 ปี
  • ความเคลียดสูงและการพักผ่อนไม่เพียงพอ
  • การรับประทานอาหารที่ขาดสารอาหารสำคัญ เช่น สังกะสีและวิตามินดี
  • การใช้ยาบางชนิด เช่น สเตียรอยด์ หรือยาเคมีบำบัด
  • ภาวะอ้วนและไขมันในร่างกายสูง
  • โรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน หรือภาวะดื้อต่ออินซูลิน

Testosterone ต่ำกับนักเพาะกาย

นักเพาะกายให้ความสำคัญกับ Testosterone เพราะเป็นฮอร์โมนหลักที่ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อ เพิ่มความแข็งแรง และลดไขมันในร่างกาย หากมีระดับ Testosterone ต่ำ จะทำให้พัฒนากล้ามเนื้อช้าลง ความแข็งแรงลดลง และไขมันสะสมมากขึ้น

วิธีแก้ Testosterone ต่ำ

วิธีแก้ตามธรรมชาติ

  • การฝึก Weight Training อย่างมีประสิทธิภาพ

การฝึกแบบหนักเน้นใช้ท่า Compound เช่น Squat , Deadlift , Bench Press ช่วยกระตุ้นการหลั่ง Testosterone

  • รับประทานอาหารที่ช่วยเพิ่มฮอร์โมน Testosterone

อาหารที่ไขมันดีสูง อะโวคาโด , ถั่ว , ไข่แดง อาหารที่มีสังกะสี Zinc หอยนางรม , เนื้อแดง , เมล็ดฟักทอง และอาหารที่มีวิตามินดี แซลมอน , ตับ , นม หรือเสริมวิตามินดี3

  • ลดไขมันส่วนเกินในร่างกาย

ไขมันสะสมที่มากเกินไปจะเพิ่ม Estrogen ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิง และลดการผลิต Testosterone

  • นอนหลับให้เพียงพอ

ควรนอนอย่างน้อย 7 – 9 ชั่วโมงต่อคืน เพราะ Testostorone ถูกผลิตมากที่สุดระหว่างนอนหลับ หากนอนดึกหรือพักผ่อนไม่พอ ร่างกายจะผลิต Cortisol มากขึ้น ซึ่งมันไปกดการผลิต Testosterone

  • ลดความเคลียด

ความเคลียดสูงทำให้ร่างกายหลั่ง Cortisol ซึ่งไปยับยั้งการสร้าง Testosterone ใช้วิธีผ่อนคลาย เช่น ทำกิจกรรมที่ตัวเองชอบ , เที่ยว หรือทำสมาธิ

วิธีแก้โดยการใช้ฮอร์โมนเสริม

ในวงการเพาะกาย นักกีฬาบางคนเลือกใช้ฮอร์โมนเสริมเพื่อเพิ่มระดับ Testosterone โดยมีตัวเลือกดังนี้

  • Testosterone Replacement Therapy (TRT)

TRT เป็น การบำบัดอร์โมนทดแทน สำหรับผู้ที่มีระดับ Testosterone ต่ำกว่าปกติ โดยใช้ Testosterone Enanthate หรือ Cypionate ฉีดเข้ากล้ามเนื้อทุก 1 – 2 สัปดาห์

  • Selective Estrogen Receptor Modulators (SERMs)

ใช้ Nolvadex และ Clomid ระหว่าง PCT เพื่อลดผลข้างเคียงจากการใช้สเตียรอยด์

  • Aromatase Inhibitors (AIs)

ใช้ Arimidex และ Letrozole ลดการเปลี่ยน Testosterone เป็นฮอร์โมนเพศหญิง Estrogen

  • Human Chorionic Gonadotropin (HCG)

ใช้กระตุ้นการผลิต Testosterone ให้ผลิตเองตามธรรมชาติ หลังจากใช้สเตียรอยด์

สรุป Testosterone ต่ำและวิธีแก้

หากต้องการเพิ่มระดับ Testosterone ในการเพาะกาย ควรเริ่มจาก วิธีธรรมชาติ ออกกำลังกาย ควบคุมสารอาหาร พักผ่อนให้เพียวพอ และลดความเคลียด แต่หากยังมีปัญหา อาจพิจารณาการใช้ TRT หรือ PEDs และวางแผนศึกษาการทำ PCT เพื่อป้องกันผลข้างเคียง

Meditech Test E 250 Testostorone Enanthate

Testosterone แต่ละชนิดแตกต่างกันยังไง ?

Testosterone หรือที่เรารู้จักกันนามว่า Test

คือฮอร์โมนเพศชายที่ผลิตโดยอัณฑะในเพศชาย และรังไข่ในเพศหญิง กับต่อมหมวกไต ซึ่งจะพบเฉพาะในสัตว์ที่มีกระดูกสันหลังเท่านั้น

Testosterone ที่เราจะพูดถึงในบทความนี้ มี 4 ประเภท

  • Testosterone Propionate

  • Testosterone Enanthate

  • Testosterone Cypionate

  • Testosterone Undecanoate

ความแตกต่างระหว่าง Test ทั้ง 4 ประเภทคือ Ester ระยะเวลาในการออกฤทธิ์ที่แตกต่างกัน

Short Ester

  • Testosterone Propionate ระยะเวลา 1-2 วัน

  • Testosterone Enanthate ระยะเวลา 3-4 วัน

  • Testosterone Cypionate ระยะเวลา 5-6 วัน

Long Ester

  • Testosterone Undecanoate ระยะเวลา 30 วัน

ทั้งนี้ระยะเวลาที่ออกฤทธิ์ของแต่ละชนิดขึ้นอยู่กับ Base Oil ของแต่ละแบรนด์สินค้าด้วย แต่ค่าเฉลี่ยของแต่ละชนิดก็จะประมาณนี้ครับ

วิธีการเลือกใช้ Testosterone แต่ละชนิด

การใช้ Testosterone ของแต่ละชนิดขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการออกฤทธิ์ Short Ester ก็จะใช้ถี่หน่อยในแต่ละสัปดาห์ ซึ่งจะแตกต่างจาก Long Ester ที่ใช้แค่เดือนละครั้งก็ได้ ซึ่งตัวออกฤทธิ์สั้นกว่าก็จะเห็นผลไว จะแตกต่างจากตัวที่ออกฤทธิ์ช้าที่จะใช้ระยะเวลานานกว่า กว่าจะเห็นผล

  • Testosterone Propionate แนะนำให้ใช้ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ จันทร์ พุธ ศุกร์ หรือ ใครที่มีเวลาในการฉีดบ่อยหน่อยและงบเหลือ แนะนำให้ใช้วันเว้นวันไปเลย

  • Testosterone Enanthate แนะนำให้ใช้ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ จันทร์ พฤหัสบดี หรือ อังคาร ศุกร์ แล้วแต่สะดวกได้เลยครับ

  • Testosterone Cypionate แนะนำให้ใช้ 1 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือ จะใช้เหมือน Test E ก็ได้ เพราะ Ester มันใกล้เคียงกัน

  • Testosterone Undecanoate แนะนำให้ใช้ 1 เดือนครั้ง จะเหมาะสำหรับคนที่ต้องการฟื้นฟูกล้ามเนื้อจากโรคที่เกี่ยวกับกล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือ ผู้หญิงที่ต้องการเปลี่ยนแปลงตัวเองให้มีกล้ามเนื้อแบบผู้ชายครับ

ข้อแตกต่างระหว่าง Test E กับ Test C

Test C จะถูกนิยมใช้มากในอเมริกามากกว่าตัว Test E ส่วนบ้านเราจะนิยม Test E ซะมากกว่า ข้อแตกต่างของมันแทบจะไม่ต่างกันเลย แต่ Base Oil บางยี่ห้อ Test E จะมีความเข้มข้นสูงกว่าครับ ถ้ามือใหม่ผมจะแนะนำให้ใช้ Test C เพราะความเข้มข้นที่บางกว่าและ Ester ที่ใช้ต่อสัปดาห์กำลังดี ไม่ถี่เกินไป

Test U ส่วนใหญ่จะมีการใช้ในช่วงทำ TRT หรือเลี้ยง Test

ตอน Off Season ไม่ได้ใส่ตัวอื่นเพราะมันจะจัดการยาง่ายกว่า ใช้เท่าไหร่ให้เรากำหนด 1 ครั้งต่อสัปดาห์ แล้วใช้เท่าไหร่ให้คูณ 4 ไปได้เลยครับ

ตัว Test U ส่วนใหญ่จะถูกใช้ในการแพทย์ใช้ทุก 2 เดือน อันนี้ใช้ในคนสูงอายุที่ต้องการทำฮอร์โมนทดแทนให้ได้ฮอร์โมนเท่ากับวัยรุ่นหรือเสริมสร้ามกล้ามเนื้อที่อ่อนแรงไป และมักถูกใช้กับผู้หญิงที่จะเปลี่ยนเพศสร้างกล้ามเนื้อให้เหมือนผู้ชาย ทั้งนี้ทั้งในการใช้และปริมาณ Dose ขึ้นอยู่กับฮอร์โมนพื้นฐานของตัวเราเองด้วยครับ

Bodytech Test P 100 Testostorone Propionate

Bodytech Test E 250 Testostorone Enanthate

Pharmacom Test C 250 Testosterone Cypionate

 

Back to top
X