Tag Archives: SARMs

Sarms ซื้อที่ไหน

Sarms ซื้อที่ไหน? แนะนำแหล่งซื้อ Sarms ที่ปลอดภัย ได้มาตรฐาน

Sarms ซื้อที่ไหน? แนะนำแหล่งซื้อ Sarms ที่ปลอดภัยและได้ผลจริง

Sarms (Selective Androgen Receptor Modulators) กำลังเป็นที่นิยมในวงการฟิตเนสและเพาะกาย เพราะมีคุณสมบัติช่วยเพิ่มกล้าม ลดไขมัน และเร่งการฟื้นตัวหลังออกกำลังกาย แต่คำถามสำคัญที่หลายคนสงสัยคือ “Sarms ซื้อที่ไหน ถึงจะปลอดภัย ได้ของแท้ และเห็นผลจริง?”

ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับ Sarms แบบเจาะลึก พร้อมแนะนำวิธีเลือกซื้อให้ไม่โดนของปลอม และมีลิงก์สำหรับสั่งซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือในตอนท้าย

Sarms ซื้อที่ไหน


Sarms คืออะไร?

Sarms คือสารประกอบที่ทำหน้าที่คล้ายฮอร์โมนเพศชาย (androgen) แต่มีความเฉพาะเจาะจงในการจับกับตัวรับของกล้ามเนื้อและกระดูก ทำให้เกิดผลเหมือนการใช้สเตียรอยด์ แต่มีผลข้างเคียงน้อยกว่า จึงได้รับความนิยมในกลุ่มคนที่ต้องการ:

  • เพิ่มมวลกล้ามเนื้อแบบ Lean Muscle

  • ลดไขมันโดยไม่สูญเสียกล้ามเนื้อ

  • ฟื้นตัวไวหลังการออกกำลังกายหนัก


ประเภทของ Sarms ยอดนิยม

  1. Ostarine (MK-2866): เน้นเพิ่มกล้ามและความแข็งแรง

  2. Ligandrol (LGD-4033): ช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อและพลัง

  3. Cardarine (GW-501516): เน้นเบิร์นไขมันและเพิ่มความอึด

  4. RAD-140 (Testolone): มีฤทธิ์ใกล้เคียงกับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน

  5. YK-11: สร้างกล้ามแบบจัดเต็ม เหมาะสำหรับสาย Hardcore


ทำไมต้องระวังตอนเลือกซื้อ Sarms?

ตลาด Sarms เต็มไปด้วยของปลอม ของเจือปน หรือสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานจากแหล่งที่ไม่ชัดเจน เช่น:

  • สารปลอมปนที่อาจเป็นอันตราย

  • ปริมาณสารจริงไม่ตรงฉลาก

  • ไม่มีเอกสาร Lab Test รับรองคุณภาพ

  • ขาดการดูแลหลังการขาย

ดังนั้นการซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้จึงสำคัญมาก


เช็กลิสต์ก่อนตัดสินใจซื้อ Sarms

ก่อนกดสั่งซื้อ Sarms ควรพิจารณา 5 ข้อนี้:

มีใบรับรอง Lab Test – ควรมี Certificate of Analysis (COA) ยืนยันความบริสุทธิ์
แหล่งผลิตน่าเชื่อถือ – ดูว่าโรงงานหรือแบรนด์มีมาตรฐาน GMP หรือไม่
รีวิวจากผู้ใช้จริง – ดูรีวิวหรือผลลัพธ์จากคนที่เคยใช้จริง
ไม่โอ้อวดเกินจริง – ถ้าโปรโมตเว่อร์เกินเหตุ ให้ระวังของปลอม
มีบริการให้คำแนะนำ – ถ้ามีทีมงานคอยตอบคำถามหรือแนะนำยิ่งดี


Sarms ซื้อที่ไหน ถึงปลอดภัย?

หากคุณกำลังมองหา Sarms ที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย และได้รับรีวิวดีจากผู้ใช้งานจริง เราขอแนะนำให้สั่งซื้อผ่านลิงก์นี้:

สั่งซื้อ Sarms ของแท้ คลิกที่นี่เลย

✅ ได้รับสินค้าจากแหล่งนำเข้าโดยตรง
✅ มี Lab Test ยืนยันความบริสุทธิ์
✅ บริการให้คำปรึกษาฟรีทั้งก่อนและหลังการใช้งาน
✅ ส่งไว ปลอดภัย มีระบบติดตามสินค้า


เปรียบเทียบการซื้อ Sarms จากแหล่งทั่วไป vs แหล่งที่แนะนำ

รายละเอียด แหล่งทั่วไป (เสี่ยง) ลิงก์แนะนำ (คลิกที่นี่)
ความปลอดภัย ❌ ไม่มี Lab Test ✅ มีใบรับรองชัดเจน
การจัดส่ง ❌ ไม่แน่นอน ✅ ส่งไว เชื่อถือได้
การให้คำปรึกษา ❌ ไม่มี ✅ ตอบไว ให้คำแนะนำทุกขั้นตอน
รีวิวจากผู้ใช้ ❌ ปลอมเยอะ ✅ รีวิวจากลูกค้าจริง

คำแนะนำเพิ่มเติมก่อนใช้ Sarms

  • ศึกษาวิธีใช้ให้ละเอียด (เช่น ปริมาณ, ระยะเวลา, การทำ PCT)

  • ไม่ควรใช้ต่อเนื่องเกิน 8–12 สัปดาห์

  • ควรทำ Post Cycle Therapy (PCT) หลังใช้เสมอ

  • ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือแพทย์ก่อนใช้


คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Sarms

Q: Sarms ผิดกฎหมายหรือไม่?
A: ในหลายประเทศ Sarms ยังไม่ถูกอนุมัติสำหรับใช้กับมนุษย์ (ใช้เพื่อการวิจัย) แต่สามารถซื้อขายในฐานะสินค้าเสริมสุขภาพได้ในบางพื้นที่ รวมถึงออนไลน์

Q: ต้องใช้ PCT หลังจากใช้ Sarms หรือไม่?
A: ควรใช้ โดยเฉพาะหากใช้ตัวที่มีผลต่อฮอร์โมน เช่น RAD-140 หรือ YK-11

Q: ใช้ Sarms แล้วต้องออกกำลังกายไหม?
A: ต้องออกกำลังกายเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ทั้งเรื่องกล้ามเนื้อและลดไขมัน


สรุป: อยากได้ Sarms ของแท้ ต้องซื้อจากแหล่งที่ไว้ใจได้!

การจะได้ผลลัพธ์จากการใช้ Sarms ที่ดีและปลอดภัยนั้น ขึ้นอยู่กับแหล่งที่คุณซื้อ หากคุณไม่อยากเสี่ยงกับของปลอมและอยากเริ่มต้นอย่างมั่นใจ

คลิกเลย ซื้อ Sarms ของแท้ที่นี่
บริการครบวงจร ปลอดภัย ได้ผลจริง รับประกันความพึงพอใจจากลูกค้ามากมาย!

Sarms

Sarms คืออะไร? ประโยชน์-อันตรายที่ควรรู้ก่อนใช้งาน ปี 2025

Sarms คืออะไร? ทำไมถึงได้รับความนิยมในสายฟิตเนสปี 2025

ในยุคที่การดูแลสุขภาพและรูปร่างกลายเป็นเทรนด์หลักของคนรุ่นใหม่ คำว่า Sarms จึงเริ่มถูกพูดถึงมากขึ้นในกลุ่มคนที่ต้องการมีกล้ามเนื้อสวยงาม เร่งการฟื้นฟู และเสริมสมรรถภาพร่างกาย โดยที่ไม่ต้องใช้สารสเตียรอยด์ที่เสี่ยงอันตราย แต่ Sarms คืออะไร? และมันทำงานอย่างไร บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับทุกแง่มุมของสารตัวนี้อย่างละเอียด

Sarms


Sarms คืออะไร?

Sarms ย่อมาจาก Selective Androgen Receptor Modulators เป็นสารเคมีที่ออกฤทธิ์เลือกจับกับตัวรับแอนโดรเจนเฉพาะจุด เช่น กล้ามเนื้อหรือกระดูก ต่างจากสเตียรอยด์ที่ออกฤทธิ์ทั่วร่างกายจนอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียง

โดยทั่วไป Sarms จะมีคุณสมบัติในการ:

  • เพิ่มมวลกล้ามเนื้อ

  • ลดไขมัน

  • เร่งการฟื้นฟูร่างกาย

  • ปรับสมดุลฮอร์โมนแบบมีเป้าหมาย


Sarms ต่างจากสเตียรอยด์อย่างไร?

คุณสมบัติ Sarms สเตียรอยด์
กลไกการทำงาน จับเฉพาะ receptor กล้าม กระจายทั่วร่างกาย
ผลข้างเคียง ค่อนข้างน้อย มีมาก เช่น สิว, ผมร่วง, นมโต
การสะสมในร่างกาย ไม่สะสมยาวนาน สะสมได้ถ้าใช้ต่อเนื่องนาน
ถูกควบคุมโดย FDA ยังไม่อนุมัติทั่วไป บางชนิดถูกควบคุมเข้มข้น

Sarms จึงถูกมองว่าเป็นทางเลือกใหม่สำหรับคนที่อยากได้ผลลัพธ์คล้ายสเตียรอยด์แต่ลดความเสี่ยงลง


ประเภทของ Sarms ที่นิยมในตลาด

  1. Ostarine (MK-2866)
    ช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อ รักษามวลกล้ามจากโรคกล้ามเนื้อฝ่อลีบ

  2. Ligandrol (LGD-4033)
    เหมาะสำหรับการบัลค์หรือเพิ่มน้ำหนักกล้าม

  3. RAD-140 (Testolone)
    เพิ่มพลังงาน เพิ่มเทสโทสเตอโรนให้สูงขึ้นแบบธรรมชาติ

  4. YK-11
    ส่งเสริมการสร้าง Myostatin ซึ่งมีผลโดยตรงกับการขยายมวลกล้าม

  5. S23
    ตัวนี้แรงสุดในกลุ่ม Sarms เหมาะกับผู้ใช้ที่มีประสบการณ์

  6. Cardarine (GW-501516)
    แม้ไม่ใช่ Sarms แท้ แต่ใช้ควบคู่เพื่อเร่งเผาผลาญไขมัน


ประโยชน์ของ Sarms ที่ควรรู้

  • ✅ เพิ่มกล้ามโดยไม่ต้องพึ่งโปรตีนเสริมมากมาย

  • ✅ ลดไขมันและเร่งเมตาบอลิซึม

  • ✅ ช่วยในการฟื้นฟูร่างกายเร็วขึ้นหลังออกกำลังกาย

  • ✅ บางตัวมีฤทธิ์ช่วยต้านการสลายของกล้ามเนื้อ

  • ✅ เสี่ยงต่อผลข้างเคียงน้อยกว่าสเตียรอยด์


ใครควรใช้ Sarms?

  • คนที่ออกกำลังกายสม่ำเสมอและต้องการผลลัพธ์ที่เร็วขึ้น

  • ผู้ที่ต้องการเสริมสมรรถภาพร่างกาย

  • ผู้ป่วยที่มีภาวะกล้ามเนื้อฝ่อลีบ (กรณีได้รับคำแนะนำจากแพทย์)

  • นักกีฬา (แต่ต้องเช็คกับ WADA เพราะบางตัวถือเป็นสารต้องห้าม)


ผลข้างเคียงของ Sarms มีอะไรบ้าง?

แม้ว่า Sarms จะปลอดภัยกว่าสเตียรอยด์ แต่ก็ยังมีความเสี่ยงหากใช้ไม่ถูกต้อง เช่น:

  • ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในร่างกายลดลง

  • ผมร่วง (บางกรณี)

  • สิวขึ้น

  • อารมณ์แปรปรวน

  • การทำงานของตับเปลี่ยนแปลง

แนะนำ: ควรทำ PCT (Post Cycle Therapy) หลังหยุดใช้ทุกครั้งเพื่อฟื้นฟูฮอร์โมน


คำแนะนำก่อนใช้ Sarms

  1. ศึกษาข้อมูลก่อนใช้งานทุกครั้ง

  2. เลือกซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ

  3. ไม่ใช้ติดต่อกันเกิน 8–12 สัปดาห์

  4. ทำการตรวจเลือดก่อน-หลังการใช้

  5. ทำ PCT เพื่อฟื้นฟูสมดุลร่างกาย


Sarms กับกฎหมายในไทย

Sarms ยังไม่ถูกจัดเป็นยาหรืออาหารเสริมที่ได้รับอนุญาตจาก อย. ไทย ดังนั้นหากคุณนำเข้า จำหน่าย หรือโปรโมตอาจมีความผิดตาม พ.ร.บ.ยา

แต่ในหลายประเทศ Sarms ยังสามารถซื้อขายได้ในรูปแบบ “สารทดลอง” (Research Chemical) โดยผู้ซื้อใช้ดุลยพินิจเอง


สรุป: Sarms เหมาะกับใคร และควรใช้อย่างไร?

หากคุณต้องการสร้างกล้าม เร่งผลลัพธ์จากการออกกำลังกายโดยไม่เสี่ยงกับผลข้างเคียงของสเตียรอยด์ Sarms อาจเป็นคำตอบที่น่าสนใจ แต่การใช้อย่างมีความรู้และระมัดระวังยังคงสำคัญที่สุด

SARMs กับ Steroid แตกต่างกันยังไงและอะไรดีกว่า ?

SARMs หรือ Selective Androgen Receptor Modulators และ Steroid หรือ Anabolic Androgen Steroids ที่เรียกกันย่อว่า AAS

ทั้ง SARMs และ Steroid คือสารที่ใช้เพื่อเพิ่มมวลกล้ามเนื้อและพละกำลัง แต่มีความแตกต่างกันหลายด้าน เช่น กลไกการทำงาน ผลข้างเคียง และ ความปลอดภัย เรามาเริ่มต้นกันที่กลไกการทำงานกันก่อนครับ

กลไกการทำงานของ SARMs และ Steroid

  • SARMs ทำงานโดยจับกับตัวรับ Androgen Receptors ในเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อและกระดูกเป็นหลัก ทำให้เกิดผล Anabolic Effect โดยมีผลข้างเคียงน้อยกว่า เพราะไม่ได้มีผลกับอวัยวะอื่นมากกว่า Steroid
  • Steroids เป็นฮอร์โมน Testosterone หรือสารที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งมีผลต่อร่างกายในหลายระบบ รวมถึงกล้ามเนื้อ อวัยวะเพศ ผิวหนัง และระบบต่อมไร้ท่อ ทำให้มีผลข้างเคียงสูงกว่ามาก

ประสิทธิภาพในการเพิ่มกล้ามเนื้อของ SARMs และ Steroid

  • SARMs สามารถช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อได้ดี แต่ไม่เท่า Steroids อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงต่อผลข้างเคียงมันจะน้อยกว่า
  • Steroids มีประสิทธิภาพในการเพิ่มมวลกล้ามเนื้อและความแข็งแรงสูงกว่า SARMs เนื่องจากเป็นฮอร์โมน Testosterone โดยตรง

ข้อดีและผลข้างเคียงของ SARMs และ Steroid

SARMs ข้อดี

  • ผลข้างเคียงน้อยกว่าและเฉพาะจุดมากกว่า Steroids
  • อาจจะไม่ต้องทำ PCT หรือถ้าทำจะทำน้อยกว่า Steroids

SARMs ข้อเสีย

  • อาจจะมีผลต่อระดับฮอน์โมนเพศชายหากใช้ในปริมาณสูงหรือระยะเวลานาน
  • อาจจะมีผลต่อตับและระดับไขมันในเลือด แต่ขึ้นอยู่กับชนิดของ SARMs ที่ใช้ด้วย

Steroids ข้อดี

  • เพิ่มมวลกล้ามเนื้อและความแข็งแรงได้อย่างรวดเร็ว มากกว่า SARMs หลายเท่า

Steroids ข้อเสีย

  • ยับยั้งการผลิตฮอร์โมนเพศชายตามธรรมชาติทำให้ต้องมีการทำ PCT
  • มีผลต่อตับ ไต หัวใจ และระดับ Choloesterol
  • อาจทำให้เกิดสภาวะ Gynecomastia เต้านมสาว จากการเพิ่มขึ้นของระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน
  • อาจทำให้เกิดสิว ผมร่วง อารมณ์แปรปรวน และ ภาวะซึมเศร้า

SARMs และ Steroid ถูกกฎหมายหรือไม่ ?

  • SARMs แม้จะยังไม่ถูกควบคุมเข้มงวดเท่า Steroids แต่ในหลายประเทศก็เริ่มมีการจำกัดการใช้ โดยเฉพาะในวงการกีฬา
  • Steroids ผิดกฎหมายในหลายประเทศ และมักถูกควบคุมเป็นสารต้องห้ามในกีฬาเพราะมันมีผลต่อการสร้างกล้ามและความแข็งแรงที่สูงมาก พูดง่ายคือใช้แล้วมันโกงกว่าคนอื่น

อะไรดีกว่ากัน SARMs กับ Steroid ?

ถามว่าอะไรดีกว่าตอบเลยว่าขึ้นอยู่กับเป้าหมายและยอมรับความเสี่ยงของมันได้ไหม

  • ถ้าต้องการเพิ่มกล้ามเนื้อแบบดูธรรมชาติ มีผลข้างเคียงให้น้อยที่สุด SARMs ก็จะตอบโจทย์ได้ดีครับ
  • ถ้าต้องการผลลัพธ์ที่สูงมาก หุ่นแบบระดับนักกีฬาเพาะกาย กล้ามใหญ่แน่นมาไว และยอมรับผลข้างเคียงได้ Steroids จะตอบโจทย์ที่สุดครับ

หากต้องการใช้ ควรศึกษาข้อมูลโปรไฟล์ตัวยาแต่ละตัวให้ดีก่อน บางตัวมีข้อดีข้อเสียต่างกัน หากใช้ผิดใช้มั่วอาจจะมีแต่ข้อเสียไม่มีข้อดีเลยก็ได้ครับ

Sarms Combo RAD-140 Testolone

Bodytech Test E 250 Testostorone Enanthate

SARMs มีประโยชน์อย่างไร ?

Selective Androgen Receptor Modulator หรือที่เรารู้จักกันนามว่า SARMs

SARMs เป็นยาประเภทพิเศษที่พัฒนาขึ้นเพื่อรักษาโรค เช่น โรคอัลไซเมอร์และโรคกระดูกพรุน SARMs ให้ประโยชน์ของฮอร์โมนเพศชายโดยไม่มีผลข้างเคียง

SARMs ช่วยในการเพิ่มสร้างมวลกล้ามเนื้อและส่งเสริมการลดน้ำหนัก SARMs ค่อนข้างปลอดภัยและผลข้างเคียงน้อยมาก และไม่ก่อให้เกิดปัญหาความดันโลหิตสูง ไม่เป็นพิษและไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการทำงานของตับ และ SARMs ยังสามารถซ่อมแซมอาการบาดเจ็บของผู้สูงอายุได้อีกด้วย

ประโยชน์ของ SARMs ในการนอนหลับ

MK-677 (Ibutamoren) SARMs ที่กระตุ้นการหลั่ง IGF-1 ในร่างกายในปริมาณมากนั้นถูกใช้ในผู้ใหญ่ที่มีการเจริญเติบโตหรือขาดฮอร์โมน เช่นเดียวกับสิ่งที่ช่วยเพิ่มมวกล้ามเนื้อ และมันยังได้รับความนิยมในหมู่นักเพาะกายอีกด้วย

MK-677 ไม่ใช่ฮอร์โมน และจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดเมื่อรับประทานต่อเนื่อง 3 เดือนขึ้นไป เวลาที่ดีที่สุดในการจะใช้ MK-677 คือช่วงกลางคืน ก่อนเข้านอน นอกจากนี้ยังข่วยให้คุณหลับได้อย่างรวดเร็วด้วยสารเคมีที่เรียกว่า Ghrelin

ผู้ใช้หลายคนพบว่า MK-677 มีผลเชิงบวกอย่างมาก ทั้งคุณภาพการนอนหลับและระยะเวลาการนอนหลับนานขึ้น รวมทั้งความรู้สึก พักผ่อน และการตื่นกลางดึกลดลง

ประโยชน์ของ SARMs กับผิวหนัง

MK-677 (Ibutamoren) เนื่องจากมีผลต่อระดับคอลลาเจนในร่างกาย คอลลาเจนมีหน้าที่ในความแข็งแรงของผิวหนังและเส้นผม MK-677 ยังไม่เพียงแต่เพิ่มการผลิตคอลลาเจนในร่างกายเท่านั้น แต่ยังชะลอการเสื่อมลงอีกด้วย นี่ยังหมายความว่าอาการบาดเจ็บเรื้อรัง เนื่องจากคอลลาเจนที่เพิ่มมากขึ้นทำให้อาการบาดเจ็บฟื้นตัวได้เร็วขึ้นอีกด้วย

ประโยชน์ของ SARMs ในการเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ

RAD-140 (Testolone) ได้รับความนิยมอย่างมากในการเอามาใช้เพื่อเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อ โดยไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายของยาแอนโดรเจน RAD-140 ควรใช้ 4 ถึง 6 สัปดาห์เพื่อผลลัพธ์ที่ดี

ประโยชน์ของ SARMs ในการลดไขมัน

GW-501516 (Cardarine) เดิมทีถูกสร้างมาเพื่อรักษาผู้ป่วยโรคไขมันในเลือดสูง GW-501516 หรือ GW-0742 มันจึงถูกนิยมนำมาใช้ในการช่วยลดไขมันของบุคคลทั่วไปและนักกีฬา

SARMs ปลอดภัยหรือไม่ ?

SARMs เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายว่าเป็นยาที่ปลอดภัยกว่าสเตียรอยด์ หลายคนต้องการอยากสร้างกล้ามเนื้อแบบธรรมชาติโดยที่ไม่มีผลข้างเคียงจากสเตียรอยด์ SARMs จึงสามารถแก้ปัญหาตรงนี้ได้

Sarms Combo MK-677 Nutrobal

Sarms Combo RAD-140 Testolone

Sarms Combo GW-501516 Cardarine

MK-677 ดีโครต จริงไหม ?

Ibutamoren หรือที่รู้จักกันนามว่า MK-677 เจ้าตัว MK-677 คืออะไร ?

MK-677 คือ ยาที่จัดอยู่ใน SARMs แต่ที่จริงแล้วตัวนี้ ไม่ใช่ SARMs ซะทีเดียว แต่มันเป็น Growth Hormone Secretagogues (GHSs) สินค้าที่ถูกออกแบบมาสามารถทำให้ร่างกายหลั่ง โกรทฮอร์โมน ออกมา ซึ่งพวกนี้มันมีมานานแล้วครับ ตัว GHSs สารกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนการเจริญเติบโต ไม่ว่าจะเป็น GHPR6 , GHRP2 เป็นต้น ซึ่งในแต่ละตัวก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป แต่ MK-677 ดันถูกออกแบบมาให้กลบข้อเสียของทุกตัวหมดเลย เรียกได้ว่าดีกว่าใครเขา แถมยังเป็นแบบเม็ดกินง่ายและมีลักษณะเป็น Long Ester ออกฤกธิ์นาน กินแค่ 1 เม็ดต่อวันออกฤกธิ์ได้ทั้งวัน ด้วยคุณสมบัติที่ดีกว่าและกินง่ายออกฤทธิ์นาน ทำให้สินค้าตัวอื่นทุกวันนี้ในกลุ่ม เหลือเพียง MK-677 ตัวเดียวที่เหนือกว่าตัวอื่น

MK-677 ผลลัพธ์จากการใช้ ?

อ้างอิงจาก https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC2757071/

พบว่าการใช้ MK-677 วันละ 25mg เป็นระยะเวลายาวนานถึง 1 ปี ไม่มีผลข้างเคียงใดจากตัว MK-677 เลย นอกจากความยากอาหารมากขึ้น ซึ่งภายหลังจะค่อยลดลงไปเอง เพิ่มมวลกล้ามเนื้อ ลดไขมันได้จริง

แต่ก็มีผลข้างเคียงแบบเดียวกับการใช้ HGH เกิดขึ้นบ้าง เช่น ปวดข้อ ง่วงนอน (อันนี้ถ้าใช้ถูกเวลาจะนับเป็นข้อดีไปเลย เพราะมันทำให้เราหลับง่ายและหลับลึกขึ้น) หิวข้าว เป็นต้น

MK-677 ควรใช้ในช่วงเวลาไหน ?

เรื่องเวลาในการใช้ถ้าอยากให้มันสอดคล้องกับผลข้างเคียง ควรใช้ตอนช่วงค่ำก่อนเข้านอนครับ ผลข้างเคียงเกี่ยวกับการง่วงนอนจะเป็นผลดีต่อเราทันทีครับ

MK-677 มี Half Life กี่ชั่วโมง ?

Half Life ของ MK-677 อยู่ในช่วงประมาณ 24 ชั่วโมงถึง 36 ชั่วโมง สามารถกินแค่ 1 เม็ดต่อวันได้เลยครับ

สรุป MK-677 ดีโครต จริงไหม ?

ตอบเลยนะครับว่าดี MK-677 กว่าทุกตัวในกลุ่ม GHSs ช่วยในการหลั่งโกรทฮอร์โมน มาในรูปแบบเม็ดกินง่าย ออกฤทธิ์นาน Long Ester แต่ถ้าใครที่งบเยอะมากแนะนำให้ไป HGH เลยครับ

Sarms Combo MK-677 Nutrobal

Meditech Sarms MK-677 Ibutamoren

Bodytech Sarms MK-677 Ibutamoren

Liver Support ใช้ช่วง On-Cycle ได้ไหม ?

Supplement Support ใช้ช่วง On-Cycle ได้ไหม ?

สามารถใช้ได้ในช่วง On-Cycle ได้ครับ ไม่ว่าจะใช้เป็น SARMs หรือ Oral AAS ก็ตามแต่ คือพวกนี้ข้อดีหลักของมันคือล้างสารพิษในตับก็จริง แต่มันก็มีข้อดีหลายอย่างที่ส่งเสริมประสิทธิภาพของยาด้วย เช่นอย่าง N-Acetyl Cysteine (NAC) ช่วยกระตุ้นพวก Insulin ให้ร่างกายใช้ไขมันได้มากขึ้น

กินแล้วจะล้างยาหรือ Drop ประสิทธิภาพของยาไหม ?

ไม่ครับ Liver Support ส่วนใหญ่เริ่มแรกสกัดจากคนอยู่แล้วครับ เช่น Tauroursodeoxycholic Acid (Tudca) คือเป็นอนุพันธุ์ของกรดน้ำดีที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในร่างกายอยู่แล้ว สกัดจากท่อน้ำดีที่เชื่อมผ่านตับไปลำไส้เล็ก

กระบวนการแรก จะเป็นเกลือน้ำดีที่ถูกปล่อยเข้าสู่ลำไส้ผ่านทางท่อน้ำดีในตับ จุลินทรีย์ในลำไส้ใหญ๋เผาผลาญเกลือน้ำดีเป็นกรด Ursodeoxycholic (UDCA) รวมเข้ากับโมเลกุลทอรีน = TUDCA

คุณสมบัติหลักคือส่งผลช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของตับและไต คนที่สุขภาพดี ร่างกายแข็งแรง ยังผลิตได้น้อยเลยครับ สำหรับคนไม่ออกกำลังกาย กินมั่ว คุมอาหารไม่ดี นี่ไม่ต้องพูดถึง เอาง่ายคือของดีที่ร่างกายมีอยู่แล้ว ยิ่งมีมากขึ้นยิ่งดีครับ

กินช่วงทำ PCT ได้ไหม ?

ได้ปกติครับ ไม่ได้ทำปฏิกริยาอะไรกับ SERMs ทำงานคนละหน้าที่

Liver Support ควรทานตอนไหน ?

ทานคู่ยาเม็ดก็ได้ครับ ทำงานคนละทางอยู่แล้ว

ทานพร้อมมื้ออาหารก็ได้เหมือนกันไม่มีข้อเสีย ดูดซึมได้ปกติ

Sarms Combo Tudca

SARMs คืออะไร ?

Selective Androgen Receptor Modulator หรือที่เรียกกันว่า SARMs

เป็นกลุ่มยาประเภทหนึ่งที่ทำหน้าที่เหมือน Steroid แต่มีความปลอดภัยมากกว่า และมีผลข้างเคียงน้อยกว่า SARMs ทำหน้าที่ในการควบคุมตัวรับฮอร์โมน Androgen ฮอร์โมนที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อ ในแง่ของคนธรรมดาหรือนักกีฬา SARMs ถูกนำมาใช้เพื่อเพิ่มมวลกล้ามเนื้อและความแข็งแรง

SARMs แตกต่างจาก Steroid อย่างไร ?

SARMs นั้นแตกต่างจาก Steroid Testosterone และ Anabolic Steroid มันไม่ใช่โปรฮอร์โมนเปปไทด์ หรือ HRT การบำบัดฮอร์โมนทดแทน อย่างที่คุณคิด

SARMs ทำงานอย่างไร ?

SARMs เป็นกลุ่มยาประเภทหนึ่งที่ถูกนำมาใช้สร้างมวลกล้ามเนื้อและรักษาโรคอื่น พวกมันทำหน้าที่เป็นตัวปรับแต่งตัวรับแอนโดรเจน ซึ่งหมายความว่าพวกมันกระตุ้นการทำงานของตัวรับแอนโดรเจนตามธรรมชาติของร่างกาย เช่น Testosterone จับ AR โดยขณะที่ Steroid ไม่จับ

ผลที่ได้จากการใช้ SARMs คือมวลกล้ามเนื้อเพิ่มมากขึ้น เมื่อเทียบกับฮอร์โมนเพศชายเพียงอย่างเดียว เนื่องจากถูกออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับจุดประสงค์โดยไม่มีผลข้างเคียง เช่น ผมร่วง หรือ การโตของเต้านม Gynecomastia

SARMs มีผลข้างเคียงอย่างไร ?

ผลข้างเคียงเกี่ยวกับการใช้ SARMs มีน้อยมาก ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นเรื่องยากมากที่ทุกคนจะได้รับผลกระทบด้านสุขภาพจากการใช้ SARMs เพราะฤทธิ์ของมันไม่แรงเท่า Steroid

SARMs ปลอดภัยหรือไม่ ?

SARMs มีมาตั้งแต่ปี 2552 ดังนั้นจึงยังเร็วเกินไปที่จะทราบผลข้างเคียงทั้งหมดหรือมีปฏิกิริยากับยาอื่น ซึ่งหมายความว่าแม้ว่าการศึกษาส่วนใหญ่ระบุว่า SARM นั้นค่อนข้างปลอดภัยสำหรับการใช้งานในระยะสั้น ระหว่าง 3-6 เดือน แต่ก็ไม่มีทางรู้ได้เลยว่าสารเหล่านี้จะทำให้เกิดผลข้างเคียงในระยะยาวหรือมีปฏิกิริยากับยาอื่น หรือไม่

SARMs แบ่งออกเป็นกี่ประเภท ?

  • Ligandrol (LGD-4033)

  • Testolone (RAD-140)

  • Andarine (S-4)

  • Ostarine (MK-2866)

  • Cardarine (GW-501516)

  • Ibutamoren (MK-677)

สรุป SARMs คืออะไรและมีประโยชน์อย่างไร ?

  • SARMs ทำหน้าที่เหมือน Steriod แต่ปลอดภัยกว่า

  • SARMs สามารถสร้างกล้ามเนื้อและลดไขมันได้

  • SARMs มีผลข้างเคียงน้อยแต่ยังไม่ชัดเจนในระยะยาว

  • SARMs ปลอดภัยว่า Steroid เพราะฤทธิ์ไม่แรง

Bodytech Sarms LGD-4033 Ligandrol

Bodytech Sarms RAD-140 Testolone

Bodytech Sarms GTX-007 , S-4 Andarine

Bodytech Sarms MK-2866 Ostarine

Bodytech Sarms GW-501516 Cardarine

Bodytech Sarms MK-677 Ibutamoren

Bodytech Sarms RAD-140 Testolone 10mg 50tabs Ziplock

RAD-140 SARMs ช่วยอะไรบ้าง ?

Testolone หรือที่เราเรียกกันว่า RAD-140

RAD-140 หรือที่เรียกกว่า Testolone เป็นสารเสริมในกลุ่มของ Selective Androgen Receptor Modulators (SARMs) ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อผลักดันการทำงานของรีเซ็ปเตอร์แอนโดนเจนในเนื้อเยื่อเฉพาะ โดยไม่มีผลข้างเคียงที่เกิดจากสเตอรอยด์แอนโดรเจนแบบดั้งเดิม

SARMs อย่างตัว RAD-140 และ SARMs ตัวอื่น ได้รับความนิยมในกลุ่มนักกีฬาและนักเล่นยิมเนื่องจากมีคุณสมบัติที่สามารถช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อและลดไขมัน โดยไม่มีผลข้างเคียงที่เกิดจากสเตอรอยด์

Testolone (RAD-140) คำว่า RAD-140 หมายความว่าอย่างไร ?

คำว่า RAD-140 เป็นชื่อทางเคมีของสารเสริมที่เรียกว่า Testolone ซึ่งเป็นสมาชิกในกลุ่มของ Selective Androgen Receptor Modulators (SARMs) ชื่อ RAD-140 ไม่ได้มีความหมายพิเศษในภาษาไทยหรือภาษาอื่น แต่เป็นชื่อที่ถูกกำหนดโดยบริษัทที่พัฒนาสารนี้ ซึ่งคือบริษัท Redius Health

RAD อาจมาจากชื่อของบริษัท (Radius Health) และ 140 อาจเป็นหมายเลขที่ใช้เป็นตัวแทนหรือรหัสสำหรับสารเสริมนี้ในระหว่างการพัฒนา อย่างไรก็ตามชื่อเฉพาะของสารเคมีหรือยามักจะถูกกำหนดโดยบริษัทที่พัฒนาและมักไม่มีความหมายทางภาษาทั่วไป

Testolone (RAD-140) Half Life กี่ชั่วโมง ?

สำหรับ RAD-140 Half-Life ของ RAD-140 อยู่ในช่วงประมาณ 12-24 ชั่วโมง แต่ควรทราบว่าข้อมูลเกี่ยวกับ RAD-140 และ SARMs ตัวอื่น ยังคงถูกศึกษาและประเมินอยู่ ดังนั้นควรปรึกษาแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนใช้งาน

Testolone (RAD-140) เพิ่มกล้ามเนื้อได้อย่างไร ?

Testolone (RAD-140) เป็นสารในกลุ่มของ Selective Androgen Receptor Modulators (SARMs) SARMs ถูกออกแบบมาเพื่อผลักดันการทำงานของรีเซ็ปเตอร์แอนโดรเจนในเนื้อเยื่อเฉพาะ โดยมีความหวังว่าจะมีผลข้างเคียงน้อยกว่าสเตอรอยด์แอนโดรเจนแบบดั้งเดิม

เมื่อ RAD-140 ผลักดันการทำงานของรีเซ็ปเตอร์แอนโดรเจนในเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ มันสามารถส่งสัญญาณให้กับร่างกายเพื่อเพิ่มการสังเคราะห์โปรตีนและการเจริญเติบโตของเซลล์กล้ามเนื้อ ผลลัพธ์คือการเพิ่มขนาดและแรงของกล้ามเนื้อได้ดีขึ้น

นอกจากนี้ RAD-140 ยังมีคุณสมบัติที่ช่วยลดการสลายของกล้ามเนื้อ ซึ่งสามารถช่วยในการรักษากล้ามเนื้อและเพิ่มขนาดกล้ามเนื้อในระยะยาว

Testolone (RAD-140) นักเพาะกายใช้ช่วงไหน ?

Testolone (RAD-140) เป็นสารในกลุ่มของ Selective Androgen Receptor Modulators (SARMs) ซึ่งมีคุณสมบัติในการเพิ่มกล้ามเนื้อและลดไขมัน ในวงการนักเพาะกาย SARMs อย่างตัว RAD-140 มักถูกใช้เป็นส่วนหนึ่งของวัตถุประสงค์ในการเพิ่มกล้ามเนื้อและการตัดไขมัน

ช่วงเพิ่มกล้ามเนื้อ (Bulking Phase) ในช่วงนี้นักเพาะกายมักจะเน้นการเพิ่มขนาดกล้ามเนื้อและเพิ่มน้ำหนัก RAD-140 สามารถช่วยเพิ่มการสังเคราะห์โปรตีนและการเจริญเติบโตของเซลล์กล้ามเนื้อ ทำให้ได้ผลดีในช่วงนี้

ช่วงตัดไขมัน (Cutting Phase) ในช่วงนี้นักเพาะกายจะเน้นการลดไขมันในร่างกายในขณะที่พยายามรักษาขนาดกล้ามเนื้อ RAD-140 มีคุณสมบัติในการลดการสลายของกล้ามเนื้อ (รักษามวลกล้ามเนื้อ) ทำให้เหมาะสำหรับช่วงตัดไขมันเพื่อรักษากล้ามเนื้อ

ปริมาณการใช้ Testolone (RAD-140) ควรใช้ปริมาณเท่าไหร่ ?

ตามที่ได้รับรายงานปริมาณการใช้ RAD-140 สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปมักอยู่ในช่วง 10-30 มิลลิกรัมต่อวัน อย่างไรก็ตามปริมาณที่แนะนำอาจแตกต่างกันไปตามวัตถุประสงค์น้ำหนักตัวและประสบการณ์ของผู้ใช้

สรุปคุณสมบัติของ Testolone (RAD-140)

  • Testolone ชื่อทางบริษัทคิดต้นตั้ง RAD-140
  • ช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อและช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อ
  • ใช้ได้ช่วงเพิ่มมวลกล้ามเนื้อและช่วงตัดไขมัน
  • ปริมาณที่ใช้ 10-30 มิลลิกรัมต่อวัน

Bodytech Sarms RAD-140 Testolone

Meditech Sarms RAD-140 Testolone

ถ้าใช้แค่ SARMs จัด Cycle ยังไงดี ?

ช่วงเพิ่มกล้ามเนื้อ (Bulking Phase)

RAD-140 , RAD-150 ตัวนี้โครต Half Away ใช้ได้ในทุกช่วง คิดเสียว่ามันคือ Testosterone แบบกิน

มีงบเพิ่มมาหน่อยเสริมตัว Bulk เพิ่ม LGD-4033 , LGD-3033 ยกตัวอย่างเช่น RAD-140 + LGD-4033
ความแตกต่างของ LGD-3033 คือจะบวมน้ำหน่อยกว่า LGD-4033 แต่ Lean Muscle Mass ที่ได้จะมากกว่า LGD-4033 และลดไขมันได้ด้วย

ตัวเสริมอื่น เช่น Stenabol (SR-9009 , SR-9011)
ความแตกต่างของ SR-9009 VS GW-501516 ถ้าในแง่ของการลดไขมัน GW ทำได้ดีกว่า เพราะกระบวนการของมันต้องแตกไขมัน ส่วนกระบวนการของ SR-9009 จะเป็นการจับ Rev-ErbA ช่วยเพิ่มพวก Mitrocondria ซึ่งตัวนี้หน้าที่คือ สังเคราะห์ ATP ให้พลังงานกับเซลล์ในร่างกาย เลยเหมาะจะเป็น Pre-Workout มากกว่า

ส่วน MK-677 อยากเสริมเข้าไปด้วยก็ได้ไม่ใช่ปัญหา ยกตัวอย่าง Stack RAD-140 + LGD-4033 จบด้วย SR-9009 หรือ MK-677 ได้หมดแล้วแต่งบของแต่ละบุคคล ยกตัวอย่าง

  • RAD-140 + LGD-4033 + SR-9009
  • RAD-140 + LGD-4033 + MK-677
  • RAD-150 + LGD-3033 + SR-9011

ช่วงตัดไขมัน (Cutting Phase)

RAD-140 , RAD-150 ยังไม่จบกับตัวนี้ครับ เพราะเวิร์คมาก
S-4 สำหรับใครที่อยากได้กล้ามเนื้อแบบลีน แห้ง ไม่ใหญ่มาก ตัวนี้พัฒนามาจาก MK-2866 จะแห้งกว่า ใครอยากได้ฟิวก็ลองดูได้ครับ

GW-501516 , GW-0742 ของดีควบคู่กับการ Cardio เพิ่มตัวแตกไขมัน และเพิ่มระบบหายใจผ่านการแลกเปลี่ยนออกซิเจนที่ดีขึ้น (Cardiovascular)

เสริมอีกตัวที่ใช้ได้ดีช่วงลดไขมันอาจจะไม่ใช่ SARMs แต่ใช้ควบคู่กันไปได้ดีมาก Clenbuterol อาจจะ Effect เยอะหน่อย ศึกษาวิธีใช้ให้เป็นก็จะปลอดภัย และใช้ควบคู่กับ GW และตัวอื่นได้ผลดีแน่นอนครับ ยกตัวอย่าง

  • RAD-140 + S-4 + GW-501516
  • RAD-140 + GW-501516 + MK-677
  • RAD-140 + GW-501516 + Clen

Bodytech Sarms RAD-140 Testolone

Bodytech Sarms LGD-4033 Ligandrol

Bodytech Sarms GTX-007 , S-4 Andarine

Bodytech Sarms GW-501516 Cardarine

มือใหม่ควรจัด Cycle ยายังไงดี ?

บทความที่ทุกท่านกำลังจะอ่านต่อไปนี้ อาจจะไม่ได้เจาะลึกข้อมูลโปรไฟล์ยาแต่ละตัวมากเท่าไหร่

เพราะงั้นอ่านบทความนี้จบแล้ว อาจจะต้องไปหาข้อมูลตัวยาแต่ละตัวเพิ่มเติมด้วยนะครับ

PEDs (Performance-Enhancing Substances)

พอมีคำว่า Enchane นั่นหมายถึงมีความสามารถในการเพิ่มประสิทธิภาพซึ่งแต่ละชนิดก็แตกต่างกันไป ถ้ารู้ Benefits ของแต่ละชนิดก็จะสามารถดึงประสิทธิภาพของยาออกมาได้อย่างเต็มที่ และประหยัดงบประมาณไปด้วยครับ

มาเริ่มต้นยาที่ต้องบอกว่าใช้ได้ในทุกสถานการณ์

Testosterone Enanthate เป็นยา Basic ที่ยืนพื้นได้นานที่สุดในวงการ เพราะเป็นยาหลักที่ใช้ง่าย และแค่ตัวเดียวก็เปลี่ยนชีวิตได้ด้วยซ้ำ 1-2 ขวดเห็นผล กล้ามเพิ่ม ขนาดเอวลด นอนหลับดี แถม Sex Drive ดีอีกด้วย ใครมีพื้นฐานของกล้ามเนื้อหรือมีโปรแกรมอาหาร โปรแกรมซ้อมที่ดีอยู่แล้ว ก็จะพัฒนาได้ดีอย่างก้าวกระโดดเพียงใช้ Testosterone Enanthate เพียงตัวเดียว

มาถึงบทความหลักของเรากันครับ การจัด Cycle ยายังไงดีให้ตอบโจทย์ในแต่ละช่วง ?

Testosterone Enanthate ตัวเดียวทำได้ทุกอย่างครับ Bulk หรือ Cut ก็ได้เพราะมันคือ Half Away
ยกเว้นจะอยากแห้งจัดแบบหนังติดกล้ามเลย อันนี้อาจจะเกินความสามารถของมันไปหน่อย คงต้องไปตัวที่มี Water Retention น้อยอย่างเช่น Testosterone Propionate

ช่วงเพิ่มกล้ามเนื้อ (Bulking Phase)

เพิ่ม EQ เข้าไปที่แนะนำ EQ เพราะความเจริญอาหารและความหนาแน่นของมวลกล้ามเนื้อ
ผมแนะนำให้ทำ Front Load ด้วยจะได้ไม่ต้องเสียเวลารอยาพีคนาน

ส่วน Deca ใช้เสริมไปใน Cycle ได้ครับ เวลา High Carbs มันทำให้ Strength เพิ่มขึ้นครับ ยกได้หนักขึ้น ใช้ Week 0.25-0.50 ก็ได้ ลดความเสี่ยงของอาการบาดเจ็บ

ยาเม็ดแนะนำเป็น Dianabol (D-BOL) ก็ตอบโจทย์ ราคาถูกแต่ได้ผลมาก ส่วนใครที่ Estergen Sensitive อาจจะต้องพึ่ง T-BOL แทน

ทุกตัวที่กล่าวมาด้านบนสามารถใช้เดี่ยวได้หรือใช้ร่วมกันได้หมดขึ้นอยู่กับการวาง Stack ยกตัวอย่าง

  • Test E + EQ
  • Test E + Deca
  • Test E + EQ + Dianabol

HGH ใช้ได้ในทุกช่วง มีโกรทฮอร์โมนดีเสมอเพราะร่างกาย Hypertrophia Calories ได้ดีขึ้น ลดการสะสม Cal in เป็น Fatty Acid

ช่วงตัดไขมัน (Cutting Phase)

ยาเม็ด Clen + GW-501516 หรือ GW-0742 ที่แนะนำชุดนี้เพราะได้ผลและความคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป Side Effect ที่แสดงออกภายนอกน้อย อธิบายแบบง่าย คือออกกำลังกายเท่าเดิมแต่ไขมันลดมากขึ้น ร่างกายดึงไขมันไปใช้ได้ดีขึ้น

ยาพวก Tren A, Tren E, Tren H
ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลว่ารับ Side Effect ของตัวยาไหนได้บ้าง ถ้าตัวสั้นก็อาจจะฮอร์โมน Swing หน่อย แต่ก็เห็นผลไวเพราะยาพีคเร็วกว่า Long Ester

ยาเสริม Anavar, Stano, HGH ก็ช่วยได้ครับ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการจัด Stack ของแต่ละบุคคล ยกตัวอย่าง

  • Test P + Clen + GW-501516
  • Test P + Clen + GW-501516 + Anavar
  • Test P + Clen + GW-501516 + Anavar + Stano

Bodytech Test E 250 Testostorone Enanthate

Bodytech Test P 100 Testostorone Propionate

Back to top
X