Sarms คืออะไร? ทำไมถึงได้รับความนิยมในสายฟิตเนสปี 2025
ในยุคที่การดูแลสุขภาพและรูปร่างกลายเป็นเทรนด์หลักของคนรุ่นใหม่ คำว่า Sarms จึงเริ่มถูกพูดถึงมากขึ้นในกลุ่มคนที่ต้องการมีกล้ามเนื้อสวยงาม เร่งการฟื้นฟู และเสริมสมรรถภาพร่างกาย โดยที่ไม่ต้องใช้สารสเตียรอยด์ที่เสี่ยงอันตราย แต่ Sarms คืออะไร? และมันทำงานอย่างไร บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับทุกแง่มุมของสารตัวนี้อย่างละเอียด
Sarms คืออะไร?
Sarms ย่อมาจาก Selective Androgen Receptor Modulators เป็นสารเคมีที่ออกฤทธิ์เลือกจับกับตัวรับแอนโดรเจนเฉพาะจุด เช่น กล้ามเนื้อหรือกระดูก ต่างจากสเตียรอยด์ที่ออกฤทธิ์ทั่วร่างกายจนอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียง
โดยทั่วไป Sarms จะมีคุณสมบัติในการ:
-
เพิ่มมวลกล้ามเนื้อ
-
ลดไขมัน
-
เร่งการฟื้นฟูร่างกาย
-
ปรับสมดุลฮอร์โมนแบบมีเป้าหมาย
Sarms ต่างจากสเตียรอยด์อย่างไร?
คุณสมบัติ | Sarms | สเตียรอยด์ |
---|---|---|
กลไกการทำงาน | จับเฉพาะ receptor กล้าม | กระจายทั่วร่างกาย |
ผลข้างเคียง | ค่อนข้างน้อย | มีมาก เช่น สิว, ผมร่วง, นมโต |
การสะสมในร่างกาย | ไม่สะสมยาวนาน | สะสมได้ถ้าใช้ต่อเนื่องนาน |
ถูกควบคุมโดย FDA | ยังไม่อนุมัติทั่วไป | บางชนิดถูกควบคุมเข้มข้น |
Sarms จึงถูกมองว่าเป็นทางเลือกใหม่สำหรับคนที่อยากได้ผลลัพธ์คล้ายสเตียรอยด์แต่ลดความเสี่ยงลง
ประเภทของ Sarms ที่นิยมในตลาด
-
Ostarine (MK-2866)
ช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อ รักษามวลกล้ามจากโรคกล้ามเนื้อฝ่อลีบ -
Ligandrol (LGD-4033)
เหมาะสำหรับการบัลค์หรือเพิ่มน้ำหนักกล้าม -
RAD-140 (Testolone)
เพิ่มพลังงาน เพิ่มเทสโทสเตอโรนให้สูงขึ้นแบบธรรมชาติ -
YK-11
ส่งเสริมการสร้าง Myostatin ซึ่งมีผลโดยตรงกับการขยายมวลกล้าม -
S23
ตัวนี้แรงสุดในกลุ่ม Sarms เหมาะกับผู้ใช้ที่มีประสบการณ์ -
Cardarine (GW-501516)
แม้ไม่ใช่ Sarms แท้ แต่ใช้ควบคู่เพื่อเร่งเผาผลาญไขมัน
ประโยชน์ของ Sarms ที่ควรรู้
-
✅ เพิ่มกล้ามโดยไม่ต้องพึ่งโปรตีนเสริมมากมาย
-
✅ ลดไขมันและเร่งเมตาบอลิซึม
-
✅ ช่วยในการฟื้นฟูร่างกายเร็วขึ้นหลังออกกำลังกาย
-
✅ บางตัวมีฤทธิ์ช่วยต้านการสลายของกล้ามเนื้อ
-
✅ เสี่ยงต่อผลข้างเคียงน้อยกว่าสเตียรอยด์
ใครควรใช้ Sarms?
-
คนที่ออกกำลังกายสม่ำเสมอและต้องการผลลัพธ์ที่เร็วขึ้น
-
ผู้ที่ต้องการเสริมสมรรถภาพร่างกาย
-
ผู้ป่วยที่มีภาวะกล้ามเนื้อฝ่อลีบ (กรณีได้รับคำแนะนำจากแพทย์)
-
นักกีฬา (แต่ต้องเช็คกับ WADA เพราะบางตัวถือเป็นสารต้องห้าม)
ผลข้างเคียงของ Sarms มีอะไรบ้าง?
แม้ว่า Sarms จะปลอดภัยกว่าสเตียรอยด์ แต่ก็ยังมีความเสี่ยงหากใช้ไม่ถูกต้อง เช่น:
-
ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในร่างกายลดลง
-
ผมร่วง (บางกรณี)
-
สิวขึ้น
-
อารมณ์แปรปรวน
-
การทำงานของตับเปลี่ยนแปลง
แนะนำ: ควรทำ PCT (Post Cycle Therapy) หลังหยุดใช้ทุกครั้งเพื่อฟื้นฟูฮอร์โมน
คำแนะนำก่อนใช้ Sarms
-
ศึกษาข้อมูลก่อนใช้งานทุกครั้ง
-
เลือกซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ
-
ไม่ใช้ติดต่อกันเกิน 8–12 สัปดาห์
-
ทำการตรวจเลือดก่อน-หลังการใช้
-
ทำ PCT เพื่อฟื้นฟูสมดุลร่างกาย
Sarms กับกฎหมายในไทย
Sarms ยังไม่ถูกจัดเป็นยาหรืออาหารเสริมที่ได้รับอนุญาตจาก อย. ไทย ดังนั้นหากคุณนำเข้า จำหน่าย หรือโปรโมตอาจมีความผิดตาม พ.ร.บ.ยา
แต่ในหลายประเทศ Sarms ยังสามารถซื้อขายได้ในรูปแบบ “สารทดลอง” (Research Chemical) โดยผู้ซื้อใช้ดุลยพินิจเอง
สรุป: Sarms เหมาะกับใคร และควรใช้อย่างไร?
หากคุณต้องการสร้างกล้าม เร่งผลลัพธ์จากการออกกำลังกายโดยไม่เสี่ยงกับผลข้างเคียงของสเตียรอยด์ Sarms อาจเป็นคำตอบที่น่าสนใจ แต่การใช้อย่างมีความรู้และระมัดระวังยังคงสำคัญที่สุด